“อภิสิทธิ์” ลอยแพ “วีระ-ราตรี” นอนคุกเขมร โบ้ยบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย

“อภิสิทธิ์” ลอยแพ “วีระ-ราตรี” นอนคุกเขมร โบ้ยบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2554 18:11 น. นายกฯ ปล่อยวางยูเนสโกเป็นคนกลางเจรจาพื้นที่พิพาทเขมร เชื่อมือให้ทำข้อเสนอถึง 2 ประเทศ เสร็จก่อน มิ.ย.นี้ อ้างเป้าหมายลดความตึงเครียด ปัดสวะคดี “วีระ-ราตรี” โยนให้ครอบครัวเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องขออภัยโทษ พูดไม่อายปาก แนวทางการช่วยเหลือต้องรอบรรยากาศที่เหมาะสมกว่านี้ วันนี้ (2 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้า และข้อสรุป ที่นาย Koichiro Matsuura ผู้แทนพิเศษองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เข้าหารือว่า เป็นการมารายงานว่าที่ไปพบกับทางกัมพูชาเป็นอย่างไร และมารับฟังแนวคิดของเราเพิ่มเติม จากนั้นจะเป็นเรื่องทางผู้แทนพิเศษจะกลับไปรายงานทางผู้อำนวยการและผู้อำนวยการจะทำข้อเสนอมามาอีกครั้ง แต่เป้าหมายมีความชัดเจน คือ ลดความตึงเครียดในกระบวนการทีเกี่ยวข้องกับยูเนสโกและมากระทบในพื้นที่เขาพะวิหาร ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอที่จะส่งกลับมาจะส่งให้ทั้ง 2 ประเทศเลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ ซึ่งแนวทางนั้นเขาขอไปทำให้เรียบร้อยก่อน เพราะต้องรายงานผู้อำนวยการเขาก่อน สำหรับการเลือกการพิจารณานั้น เป็นเรื่องของมาตรการลดความตึงเครียด เมื่อถามต่อว่า สำหรับข้อเสนอที่กัมพูชาเสนอผ่านมา และทางไทยได้ตั้งข้อสังเกตไปนั้น เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มีหลายข้อเสนอ ซึ่งมีทั้งจากที่เราเสนอไปและเขาก็ไปถามกัมพูชา และทางกัมพูชาก็ไปเสนอนของตัวเองมา จึงมาตั้งข้อสังเกตกัน แต่ว่าหลักการในภาพรวมน่าจะใกล้เคียงกันแล้ว เมื่อถามว่า ทิศทางที่อออกมาจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยที่จะรักษาสิทธิต่างๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าต้องเป็นอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนั้นหมดจะต้องอดใจรอ เพราะว่าหลักการยังมีอีกหลายส่วนและจะไปพันกับเรื่องอื่นๆด้วย เช่น กรณีที่อาเซียนกำลังพยายามดำเนินการอยู่ เมื่อถามต่อว่ายูเนสโกได้แจ้งถึงผลสรุปการพิจารณาหลังจากที่มาคุยทั้ง 2 ฝ่ายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า หลังจากที่เขาไปรายงานผู้อำนวยการก็จะเร่งทำหนังสือมา ซึ่งจะเสร็จก่อนเดือนมิถุนายน ส่วนกรณีความคืบหน้าการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราเปิดโอกาสให้ทางครอบครัวและทนายมีการตัดสินใจ ซึ่งขณะนี้เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย เพราะทีมกฎหมายนั้นกลายเป็น 2 ทีม แต่เราจะคอยประสานในเรื่องของข้อมูล เอกสารและทิศทาง เพราะในที่สุดการตัดสินใจก็ต้องอยู่บนพื้นฐานตรงนี้ แต่ต้องยอมรับว่าบรรยากาศของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ ขณะนี้ก็ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการที่จะเคลื่อนทางหนึ่งทางใด ผู้สื่อข่าวถามว่า ทิศทางของสองทีมมีความแตกต่างกัน อีกทีมจะขออภัยโทษ แต่ล่าสุด นายการุณ ใสงาม แกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ระบุว่าได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้จะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคงต้องไปตรวจสอบว่าการยื่นต่างๆ เป็นการยื่นไปที่ใครอย่างไร เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นทั้งสองทางพร้อมกัน ก็จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวถามว่า ความจริงแล้วนายวีระ มอบให้ใครเป็นคนดูแลในเรื่องคดีกันแน่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ครอบครัวมาพบกับตน ขณะนั้น นายณฐพร โตประยูร ทีมกฎหมายช่วยเหลือ 7 คนไทย ก็มาด้วย และได้ขอให้ทางตนช่วยประสานเพื่อที่จะให้เกิดการมอบอำนาจได้ และจะไดเข้าไปพบปะกับนายวีระ หลังจากนั้น มาก็ทราบว่ามีการประสานไม่ได้มีการพบปะกัน แต่ในส่วนของนายการุณนั้นตนยังไม่ทราบ เมื่อถามว่า กลายเป็นว่าคนนอกเข้าไปกำหนดชะตากรรมชีวิตของคนข้างใน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็อยากจะเรียกร้องว่าความห่วงใยนายวีระ ก็อยากให้เคารพคนที่อยู่ในครอบครัวในการตัดสินใจ เมื่อถามว่า จะยิ่งทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามันมีหลายทีมก็คงจะสับสน แต่ถ้าไม่ได้รับมอบอำนาจก็ไม่มีสิทธิ์ไปยื่นศาล ตนไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้มีการมอบอำนาจกันไว้หรือเปล่า